🍀ไปแลกเปลี่ยนที่เกาหลี 14 วันได้อะไรบ้าง
โดยการเล่าเรื่องของผมจะให้การเล่าแบบเป็นวันต่อวันเหมือนไดอารี่ บางทีในแต่ละวันการเขียนหรืออารมณ์การเขียนอาจจะดูแปลกๆเพราะว่าเป็นการเขียนวันต่อวัน และในแต่ละวันโฮสของเราก็ได้พาไปทำกิจกรรมหลายอย่างมากๆเลยทำให้พอหมดวันก็หมดแรงเสียแล้ว
สวัสดีทุกคนด้วยนะครับ และในบทความนี้ผมจะมาพูดถึงประสบการณ์การไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศเกาหลีใต้ทั้งหมด14วัน โดยผมจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 14 Day ให้เหมือนกับการเขียนไดอารี่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาตามผมมาเลยครับ
Day 1
ในวันแรกก็จะเป็นการเดินทางจากไทยไปยังเกาหลีนะครับโดยวันแรกเรามีพี่ร่วมเดินทางทั้งหมด3คนนะครับ มีผมแล้วก็พี่อีก2คน ชื่อ โมเมแล้วก็เบ้นซ์ ระหว่างการเดินทางไปเกาหลีทุกอย่างโอเครมากครับทั้งอาหารบนเครื่อง แต่ที่นั่งอาจจะเล็กหน่อยลุกทำอะไรยาก แต่ก็มีหนังให้เราดูและเป็นหนังใหม่ๆทั้งนั้นเลย จากนั้นนะครับพอเรามาถึงสนามบินที่เกาหลีสิ่งแรกที่ขึ้นชื่อเลยก็คือ ตม. นั้นเองเรากลัวว่าจะติดตม.กันก็เลยคุยเล่นแซวๆกัน สรุปว่ามีคนติดตม.ครับก็คือ พี่เบ้นซ์ เขาโดนเรียกเข้าไปในห้อง แล้วเหมือนไปเช็คข้อมูลต่างๆแล้วค่อยโดนปล่อยออกมาก็นานอยู่ ถ้าให้ดีควรเตรียมเอกสารแบบปริ้นไปด้วยนะครับ แล้วถ้าเรามีตั๋วเครื่องบินขากลับก็ดีเลย จากนั้นนะครับเราก็ไปเจอกับคนขับรถและได้นั่งรถมายัง 4-H Center ของเกาหลีใต้ ผมได้ใช้โอกาสนั้นนอนเอาแรงบนรถ เพราะว่าจากสนามบินมายังที่พักที่นี่ตั้ง 1 ชั่วโมง แล้วระหว่างบนเครื่องก็นอนได้ไม่เต็มอิ่มก็เลยเกิดอาการเพลีย พอเรามาถึงก็ได้เจอกับคนต้อนรับที่เป็นคนเกาหลีคนนึงเขาชื่อ “ยง ” และเขาก็ได้ให้เราพักแล้วก็พาเราไปกินอาหารเกาหลีกัน เป็นมื้อที่อร่อยและเขาก็ดูแลเราดีมากไปหาสายชาต์จมาให้ด้วยเนื่องจากปลั๊กที่นี่เป็นคนละหัวกับไทย จากนั้นเราก็ไปฟังเขาบรรยายเกี่ยวกับ4-H ของเกาหลี แล้วเขาก็สอนภาษาเกาหลีให้เรานิดหน่อยจากนั้นก็ให้เราพักและไปกินข้าวเย็นและก็จบวัน พรุ่งนี้เราก็จะไปบ้านHost-family กัน ก็คือการแสดงพรีเซนต่างๆที่เราเตรียมมาแสดงคือไม่ได้ทำเลยเพราะว่าเรามาถึงที่นี่ประเทศเดียว ประเทศอื่นเขามาไม่ตรงกับเราก็เลยไม่ได้เจอกันเป็นmeeting แต่ก็ไม่เป็นไรถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ และก็ได้ไปซื้อน้ำแปลกๆตอนกลางคือเพื่อไปลองใช้บัตร น้ำเขาก็อร่อยดีน้ำส้มผสมวุ้นมะพร้าว
/*! elementor – v3.11.3 – 07-03-2023 */
.elementor-image-gallery .gallery-item{display:inline-block;text-align:center;vertical-align:top;width:100%;max-width:100%;margin:0 auto}.elementor-image-gallery .gallery-item img{margin:0 auto}.elementor-image-gallery .gallery-item .gallery-caption{margin:0}.elementor-image-gallery figure img{display:block}.elementor-image-gallery figure figcaption{width:100%}.gallery-spacing-custom .elementor-image-gallery .gallery-icon{padding:0}@media (min-width:768px){.elementor-image-gallery .gallery-columns-2 .gallery-item{max-width:50%}.elementor-image-gallery .gallery-columns-3 .gallery-item{max-width:33.33%}.elementor-image-gallery .gallery-columns-4 .gallery-item{max-width:25%}.elementor-image-gallery .gallery-columns-5 .gallery-item{max-width:20%}.elementor-image-gallery .gallery-columns-6 .gallery-item{max-width:16.666%}.elementor-image-gallery .gallery-columns-7 .gallery-item{max-width:14.28%}.elementor-image-gallery .gallery-columns-8 .gallery-item{max-width:12.5%}.elementor-image-gallery .gallery-columns-9 .gallery-item{max-width:11.11%}.elementor-image-gallery .gallery-columns-10 .gallery-item{max-width:10%}}@media (min-width:480px) and (max-width:767px){.elementor-image-gallery .gallery.gallery-columns-2 .gallery-item,.elementor-image-gallery .gallery.gallery-columns-3 .gallery-item,.elementor-image-gallery .gallery.gallery-columns-4 .gallery-item,.elementor-image-gallery .gallery.gallery-columns-5 .gallery-item,.elementor-image-gallery .gallery.gallery-columns-6 .gallery-item,.elementor-image-gallery .gallery.gallery-columns-7 .gallery-item,.elementor-image-gallery .gallery.gallery-columns-8 .gallery-item,.elementor-image-gallery .gallery.gallery-columns-9 .gallery-item,.elementor-image-gallery .gallery.gallery-columns-10 .gallery-item{max-width:50%}}@media (max-width:479px){.elementor-image-gallery .gallery.gallery-columns-2 .gallery-item,.elementor-image-gallery .gallery.gallery-columns-3 .gallery-item,.elementor-image-gallery .gallery.gallery-columns-4 .gallery-item,.elementor-image-gallery .gallery.gallery-columns-5 .gallery-item,.elementor-image-gallery .gallery.gallery-columns-6 .gallery-item,.elementor-image-gallery .gallery.gallery-columns-7 .gallery-item,.elementor-image-gallery .gallery.gallery-columns-8 .gallery-item,.elementor-image-gallery .gallery.gallery-columns-9 .gallery-item,.elementor-image-gallery .gallery.gallery-columns-10 .gallery-item{max-width:100%}}





Day 2
หลังจากนั้นนะครับวันที่2เราก็ได้นั่งรถไฟไปบ้านโฮสซึ่งผมต้องลงเป็นคนสุดท้ายของกลุ่มก็เลยรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะต้องไปคนเดียว จากนั้นพอถึงสถานีรถไฟที่หมาย เราก็ได้เจอกับโฮสเลยและไปนั่งกินกาแฟพูดคุยกันนิดหน่อย เขาบอกว่าเกือบหาไม่เจอเพราะเหมือนคนเกาหลีเลย55555 แล้วก็มีผู้ชายมาจากสวิตคนนึง ลืมแนะนำไปเลย โฮสที่ผมเจอจะมี Mr.ชา พี่คังมิน แล้วก็ไซม่อน จากนั้นหลังเราพูดคุยกันเสร็จก็ได้ไปดูงานที่โรงงานโซมที่บ้านเขาปลูกโซม แล้วก็ทำบะหมี่จากมันสำปะหลัง ซึ้งโรงงานเขาก็ทันสมัยมาก และตอนเย็นมาเราก็กินข้าวที่โรงงานและพูดคุยและก็แยกย้ายไปนอนบรรยากาศแบบเป็นกันเองมาก แล้วพรุ่งนี้เขาก็จะพาไปทำสิ่งที่ผมอยากทำเมื่อมาถึงเกาหลี








Day 3
วันนี้อากาศก็ค่อนข้างแปรปรวนและฝนก็ตกในตอนเช้า เราก็เดินทางไปดูฟาร์มวัวกันและเป็นฟาร์มที่เซอร์ไพรส์มากก็คือเลี้ยงวัว 500 ตัว แต่ใช้คนแค่ 3 คน แบบWTF How? ก็คือเขามีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาทุ่นแรงและมีการจัดโซนอย่างเป็นระเบียบเพื่อให้เหมาะสมต่อการทำงานและรวดเร็ว ที่ฟาร์มนี้ทำงานแค่ตอนเช้า2-3ชม. แล้วก็ตอนเย็น อีก 1-2ชม. เป็นฟาร์มที่สนุกมากเพราะไปตอนฝนตก ขับรถให้อาหารวัวแบบตากฝน และหลังจากนั้นเราก็กลับมานอนและไปกินข้าวตอนเย็น






Day 4
วันนี้เป็นวันที่ฝนตกแต่เช้าเลยเราเลยต้องไปซื้อร่มกับรองเท้าบูทเพราะว่าพรุ่งนี้เรามีงานต้องทำในตอนเช้านิดหน่อยและอาจจะเปื้อน ส่วนต่อมาเราก็ไปที่ฟาร์มมะเขือเทศที่เป็นฟาร์มที่ทันสมัยมากๆแห่งนึงเลย ก็คือเท่าที่ดูมาหลายคนที่ผมได้ไปดูก็คือทุกคนสร้างทุกอย่างเองหมดเรียนและก็ลองทำๆจนกลายเป็นSmart farm ซึ่งโครตเก่งเลยและจากนั้นหลังพักกินข้าวเสร็จเราก็ได้ไปดูฟาร์มสตอเบอร์รี่ที่ใช้เวลาสร้างทั้งหมดเพียงหนึ่งเดือน วันนี้ก็คือสนุกมาก และที่สำคัญก็คือทุกคนพร้อมที่จะให้ความรู้เราตลอดไม่หวงความรู้เลยเป็นอะไรที่รู้สึกดีมาก very good และตอนเย็นผมก็ทำอาหารไทยให้คนเกาหลีกินและทุกคนก็บอกว่าอร่อย









Day 5
วันนี่เราก็ได้ไปทำงานกันที่สวนของโฮสนะครับก็ไปช่วยเขาถากหญ้าและดูแลต้นไม้ที่สวนของโฮมเป็นสวนไม่ใหญ่มากเพราะว่าได้เริ่มทำมาแค่1ปีและพึ่งย้ายมาที่นี่แค่ 2 ปี ทางสวนปลูกพืชสมุนไพรสำหรับทำยาก็เป็นการทำงานที่เหนื่อยแต่ไม่เหนื่อยมากเพราะว่าอากาศที่นี่ค่อนข้างเย็นและไม่ร้อนมากหลังทำงานเสร็จเราก็ไปพักกัน วันนี้เป็นวันที่ไม่มีอะไรมาก และตอนบ่ายเราก็ไปตัดผมที่ร้านตัดผมในเมือง หลังจากนั้นเราก็กลับบ้านไปซักผ้าที่ร้านซักผ้าหยอดเหรียญและก็จบวันด้วยการไปกินพิซซ่ากับไก่ทอดเกาหลี








Day 6
วันนี้เป็นวันที่เราต้องไปเจอคนของหมู่บ้านและกล่าวทักทายเพราะว่าคนในหมู่บ้านสงสัยว่าเรามาทำอะไรกันที่นี่ หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านบ้านเล็กๆทุกคนอยู่จักกันดีเราก็ได้ไปพบปะแล้วก็พูดกัน หลังจากนั้นเราก็ได้ไปดูฟาร์มสลัดในเกาหลีต่อเป็นฟาร์มที่ใช้เวลาสร้างไม่นาน เท่าที่ไปมาหลายๆที่ใช้เวลาลงมือทำและสร้างไปนานเลย และที่สำคัญเกษตกรที่นี่มีความรู้ทั้งด้านการเกษตรและด้านวิศวะกรรมและเข้าใช้ความรู้ทั้งสองด้านในการมาทำการเกษตร การเกษตรของเขาจึงมีความล้ำสมัยและดูทันสมัย ในส่วนของฟาร์มสลัดเขามีการจัดการที่ดีและมีการขายออนไลน์ ชอบตรงที่ทุกที่ที่เราไปเขาพร้อมจะให้ความรู้เราทุกอย่างเลยไม่มีหวงความรู้เลยทุกคนดูยิ้มแย้ม ใจดี และเราอยากรู้อะไรเขาก็สามารถถามได้ตลอดมันเป็นบรรยากาศที่ดีมาก และจากนั้นตอนเย็นเราก็ได้ทำบะหมี่กันและได้ลองกินหมีที่เราทำและมีส่วนเกินมาให้อัมม่าได้ทำให้เรากินเป็นอีกมื้อนึงที่อร่อยมากและอิ่มมากเช่นกัน หลังจากนั้นเราก็กลับมากินของหวานที่ไซม่อนทำให้ก็อร่อยดีเหมือนกัน












Day 7
เช้าวันนี้ก็เป็นเช้าวันเสาร์ที่อากาศดีอีกวันนึงจริงๆแล้ววันนี้จะเป็นวันพักผ่อนแต่เราก็ตัดสินใจที่จะตามโฮสไปส่งบะหมี่ที่เราได้ทำเมื่อวานอีกเมืองหนึ่งที่ห่างจากนี้ 2 ชั่วโมง และจากนั้นพอเราไปถึงที่ส่งก็ได้ไปดูสวนวอนัทกันเป็นสวนที่ใหญ่มากลูกเต็มต้นเลยและที่นี่ก็ปลูกมันสำปะหลังด้วยเป็นที่แรกในเกาหลีที่ปลูก และเราก็ไปร้านอาหารที่ใช้เส้นหมี่ของเราไปทำอาหารและได้นั่งคุยกันจนกลับมาก็ไม่มีอะไรมากสำหรับวันนี้และก็นอน






Day 8
วันนี้เป็นวันที่เราจะไปเที่ยวทะเลกัน วันเสาร์อาทิตย์ที่ที่เป็นเหมือนวันหยุดพักผ่อนเพราะจะได้ไปเที่ยว แต่ผมรู้สึกว่าอยากใช้เวลาให้เต็มที่ที่สุดไม่อยากอยู่บ้านก็เลยตามโฮสออกไปทุกที่และนี่คือที่ที่เราไปกัน




















จากนั้นเราก็ได้ไปกินซาซึมิที่ตลาดปลาก็คือสดมากๆอร่อยได้ลองอะไรเยอะมากเลยและจากนั้นเราก็ไปที่ชายหายและไปที่ซาวน่ากันเป็นอันจบวัน









Day 9
วันนี้ก็เป็นอีกวันนึงที่ดูธรรมดาเพราะว่าเราก็ได้ไปดูงานกันที่ศูนย์เกษตรที่ให้ความรู้เรื่องเกษตรของเมื่องนี้ แล้วจากนั้นเราก็ไปกินข้าวเป็นข้าวต้มเกาหลี และเราก็ได้ไปทำขนมเกาหลีและจากนั้นเราก็ได้ไปที่บ้านชาดอกไม้เป็นคนที่ทำชาดอกไม้เก่งคนนึงเลยและจากนั้นเขาก็ให้ของที่ระลึกเรามากเยอะเลยและเราก็กลับวันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก












Day 10
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เราจะไปดูฟาร์มเยอะมากๆ ที่แรกที่เราไปก็คือฟาร์มมะเขือเทศ และต่อจากนั้นเราก็ไปฟาร์มมะเขือเทศ และต่อจากนั้นเราก็ไปคาเฟ่ และก็ไปฟาร์มมะเขือเทศ ที่ปลูกพริกหยวกด้วยพริกหยวกที่นั้นหวานมากแล้วก็ได้เห็นวิธีการจัดการฟาร์มที่นั้น แต่แต่ละฟาร์มที่ไปดูคล้ายๆกันเพราะว่าเป็น Smart farm เหมือนกัน จากนั้นเราก็พูดคุยอะไรกันไปแล้วก็กลับ วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยมาก













Day 11
วันนี้เป็นวันที่เราจะต้องไปดูฟาร์มองุ่นกันและพอไปถึงก็ต้องตกใจที่เจ้าของอายุแค่ 27 ปีแต่มีฟาร์มของตัวเอวที่ใหญ่มากทั้งฟาร์มองุ่นและฟาร์มสตอเบอรี่ส่งออกไปต่างประเทศดูแล้วเขาก็เป็นคนที่ฉลาดมากและได้พูดคุยกันแล้วก็กลับวันนี้ก็จะเป็นวันสุดท้ายที่จะอยู่ที่นี่ก่อนจะเดินทางกลับโซลและกลับกทม เขาก็เลยมีงานเลี้ยงให้ตอนเย็น ก็เป็นอีกวันนึงที่สนุก



















Day 12
วันนี้เราจะต้องเดินทางกลับโซลในตอนบ่ายวันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก ก่อนกลับเราก็ได้กินข้าวและพูดคุยกับโฮสคุยเรื่องต่างๆและส่งกันที่สถานีเพื่อเดินทางกลับเป็นประสบการณ์ที่ดีมากได้เรียนรู้อะไรเยอะเลยจากการมาที่นี่





Day 13 – Day 14
วันนี้ก็จะเป็นวันว่างๆที่เขาให้เราไปเที่ยวไหนก็ได้โดยพี่โมเมได้มีเพื่อนเป็นคนเกาหลี เราเลยให้เขาพาเที่ยวทั้งวันนี้แล้วก็พรุ่งนี้ เขาเป็นคนที่พูดไทยได้ดีมากแล้วก็เป็นคนน่ารักมากเฟรนรี่สุดๆทั้ง2คนเลยเราเที่ยวได้ขนาดนี้ต้องขอบคุณพี่2คนนั้นเลยแต่ก็รู้สึกเกรงใจเวลาเขาออกค่าอาหาร และนี้เป็นรูปของทั้ง2วันที่เราได้เที่ยวในโซล















































End
และวันต่อมาเราก็ได้เดินทางกลับกันแล้วก็คิดว่าเราน่าจะคิดถึงกิมจิไปอีกสักพัก และนี่ก็จะเป็นอาหารมื้อสุดท้ายของเราในเกาหลี และต้องขอขอบคุณทุกคนที่ทำให้โครงการนี่เกิดขึ้นและทำให้ผมได้รับประสบการณ์ดีๆแบบนี้ ขอบคุณทุกคนมากๆนะครับ



